top of page

            ในปัจจุบันที่การตกแต่งไร้ขีดจำกัด รวมถึงกระจกที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาคารหรือใช้ตกแต่งภายในอาคาร บ้าน หรือคอนโดมิเนียม เพราะกระจกไม่เพียงแค่เสริมความสวยงามเท่านั้นยังให้ความรู้สึกความโปร่ง โล่ง เบาสบาย จึงถูกนำมาใช้เป็นประตู ผนัง ราวกันตกหรือฉากกั้นอาบน้ำเป็นต้น แต่การเลือกใช้กระจกอย่างไรให้เหมาะสมวันนี้เราจะมาแบ่งปันเรื่องนี้กันค่ะ

           กระจก วัสดุยอดนิยมอีกชนิดที่นิยมนำมาใช้ในงานตกแต่ง นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วยังทำให้ผู้อยู่อาศัยได้มองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้ ดังนั้นการเลือกใช้กระจกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งกระจกที่นิยมใช้ในงานตกแต่งแบ่งได้ดังนี้

1. กระจกใส (Clear Float Glass) คือกระจกโปร่งแสงที่สามารถมอง ผ่านได้อย่างชัดเจนและให้ภาพสะท้อนที่สมบูรณ์ มีค่าการตัดแสงประมาณ 8% สำหรับกระจกใสหนา 12 มิลลิเมตร และตัดแสงได้มากขึ้นตามความหนาของกระจก และเนื่องจากกระจกชนิดนี้จะดูดกลืนความร้อนได้น้อยมากจึงทำให้ผิวกระจกไม่ร้อนเมื่อต้องอยู่กลางแสงจ้าหรือในอุณหภูมิสูง ๆ ระหว่างวัน
การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้กับงานประเภทแสดงสินค้า ไม่เหมาะที่จะใช้งานกับส่วนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

 

เนื้อหา Clear Float Glass 1.jpg

2. กระจกสี (Tinted Float Glass) ผลิตขึ้นโดยการผสมโลหะออกไซด์เข้าไปในส่วนผสม ทำให้กระจกมีสีขึ้น ผิวของกระจกชนิดนี้จะร้อนจึงแตกได้ง่าย และทำให้ความร้อนจากกระจกแผ่เข้ามาภายในอาคารได้มากกว่ากระจกชนิดอื่น  แต่ในขณะเดียวกันก็ตัดแสงไม่ให้เข้ามาภายในอาคารได้มากและมีการกรองแดด หรือบังแดดได้มากกว่ากระจกใส ช่วยลดความจ้าของแสงที่ส่งผ่านเข้ามาได้ดี กระจกสีทำให้ได้แสงที่นุ่มนวลและเกิดความสบายตาในการมองกว่ากระจกใส

การใช้งาน
เหมาะสำหรับการตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือร้านค้าทั่วไป ห้องแสดงสินค้า หน้าร้าน หรือตู้แสดงสินค้าทั่วไป

เนื้อหากระจกสี.jpg

3. กระจกชนิดใสพิเศษ (Low-Iron Glass) เป็นกระจกที่ผลิตออกมาได้ใสกว่ากระจกใสทั่วไป เพื่อให้วัตถุสิ่งของที่อยู่หลังกระจกสีไม่เพี้ยนไปจากของจริง ข้อสังเกตุคือให้มองที่สันกระจก ถ้าสันเป็นสีเขียวใส แสดงว่าเป็นกระจกใสธรรมดา แต่ถ้าสันก็เห็นเป็นเนื้อกระจกใส แสดงว่าเป็น กระจกชนิดใสพิเศษ การใช้งานเหมาะสำหรับโชว์รูมสินค้าที่ไม่ต้องการให้สีของสินค้าเพี้ยน

เนื้อหาlow-iron glass.jpg

4. กระจกกึ่งนิรภัย  ( Heat Strengthened Glass )เป็นกระจกที่มีความแข็งแรงน้อยกว่ากระจกเทมเปอร์แต่แข็งแรงมากกว่ากระจกธรรมดา 2 เท่า เนื้อกระจกมีความเหนียวเมื่อแตกจะเป็นเศษกระจกแบบปากฉลามแต่ยังเกาะตัวไม่หล่นลงมาทันที สามารถรับแรงอัดของลมได้ดีกว่ากระจกธรรมดาทั้งที่มีความหนาเท่ากัน

การใช้งาน เหมาะสมสำหรับใช้ในการก่อสร้างอาคารสูง หรือคอนโดมิเนียม เพื่อป้องกันการแตกของกระจกที่มีสาเหตุจากความร้อนสูงภายนอกอาคาร

เนื้อหาHeat Strengthened Glass.jpg

5. กระจกเทมเปอร์ ( Tempered Glass )
เป็นกระจกที่นิยมใช้เป็นระจกนิรภัยมีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาประมาณ 3-4 เท่า ทนความร้อนได้มากสุดถึง 500 องศาเซลเซียส มีความหนาอยู่ที่ 3-19 มิลลิเมตร เมื่อเวลาแตกจะมีลักษณะเหมือนเม็ดข้าวโพด มีความแหลมคมน้อยจึงทำให้เกิดอันตรายและบาดเจ็บได้น้อยกว่ากระจกธรรมดา

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้ในงานที่เสี่ยงต่อการกระทบกระแทก หรือร้อนจัด/หนาวจัด เช่น ประตูกระจก ผนังกั้นห้องอาบน้ำ เป็นต้น

เนื้อหาTempered Glass.jpg

6. กระจกลามิเนต ( Laminated Glass ) เป็นกระจกนิรภัยอีกชนิดที่เกิดจากการนำเอากระจกตั้นแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบติดกันโดยมีแผ่นฟิล์ม PVB(Poly Vinyl Butyral) ซึ่งทำหน้าที่ยึดเกาะแผ่นกระจกให้ติดเข้าด้วยกันและป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตรวมถึงช่วยกันเสียงรบกวนได้ดี ความหนาของกระจกประมาณ 6-60 มิลลิเมตร เมื่อเกิดการแตกแผ่นฟิล์มจะช่วยยึดเศษกระจกเอาไว้ไม่ให้ร่วงหล่น จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายในการใช้งาน กระจกลามิเนตจะมีการเพิ่มลูกเล่นโดยจะใส่ลายผ้าอยู่ระหว่างกระจก ซึ่งจะเปลี่ยนจากกระจกใสๆให้สวยงามมากยิ่งขึ้น

การใช้งาน เหมาะสำหรับทำเป็นผนังกระจก บานประตูกระจก กระจกหน้าต่าง ตู้แสดงสินค้า กระจกแตกแต่งในที่สูง ผนังห้องประชุม ราวบันได ราวระเบียง และอาคารสูงที่เป็นอาคารกระจก

เนื้อหาLaminated Glass.jpg

7. กระจกชนิดแข็งแรงพิเศษ (Super High-Strength Glass) คล้ายกับกระจกเทมเปอร์ ต่างกันตรงที่ระยะเวลาในการทำให้กระจกเย็นหลังผ่านการอบที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิอยู่ตลอด มีฟิล์มพิเศษที่มีความเหนียวกว่ากระจกนิรภัยลามิเนตถึง 100 เท่า และแข็งแรงมากกว่า 5 เท่า กระจกชนิดนี้มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับวัสดุที่ใช้ก่อสร้างอาคารเลยทีเดียว สามารถติดตั้งภายในพื้นที่มีความชื้นสูงได้

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้ในการตกแต่งผนังสระว่ายน้ำหรือตู้ปลาขนาดใหญ่ ขั้นบันไดหรือพื้นอาคารที่ทันสมัย 

เนื้อหา Super High-Strength Glass.jpg

8. กระจกฉนวนกันความร้อน ( Insulated Glass )กระจกชนิดนี้จะมีกระบวนการผลิตที่คล้ายกับการผลิตกระจกกึ่งนิรภัย วิธีการคือการนำเอากระจก 2 แผ่นมาประกบกันและคั่นระหว่างกระจกด้วเฟรมอลูมิเนียม มีอากาศอยู่ภายใน ซึ่งจะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานและกันความร้อนได้ดีและป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ไม่ควรใช้งานในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียสเนื่องจากอาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้กับอาคารสูง หรือาคารสำนักงานที่ต้องการควบคุมสภาพแวดล้อมภายใน ควบคุมผลกระทบด้านเสียง และอุณหภูมินอกจากนี้ยังใช้ในสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และพลังงาน หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการตัดเสียงรบกวนจากภายนอก และภายใน เช่น ห้องบันทึก เสียง เป็นต้น

เนื้อหา Insulated Glass.jpg

9. กระจกสะท้อนความร้อน (Reflective Glass) กระจกที่ผ่านเทคโนโลยีการเคลือบผิวกระจก ช่วยประหยัดพลังงานของระบบปรับอากาศภายใน ในขณะเดียวกันฟิลม์ที่เคลือบชั้นกระจกมีองค์ประกอบของโลหะชนิดพิเศษที่ช่วยให้แสงผ่านได้มากเป็นพิเศษ ช่วยส่งผลให้แสงที่ผ่านเข้ามาเพียงพอต่อความต้องการในการใช้แสงในระหว่างวันรวมถึงสามารถกำหนดปริมาณแสงสะท้อนสู่ภายนอกและแสงที่ผ่านเข้ามาสู่ตัวอาคารได้ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เนื่องจากคนภายนอกจะไม่สามารถมองเข้ามายังอาคารได้ในตอนกลางวัน แต่หากภายในมีความสว่างมากกว่าภายนอกก็จะทำให้ภายนอกมองเข้ามาในอาคารได้

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้เป็นกระจกตกแต่งภายนอกอาคารและใช้กับบานประตูหน้าต่าง

เนื้อหา Reflective Glass.jpg

10. กระจกดัดโค้ง (Curved Glass) เป็นกระจกที่ใช้ในงานตกแต่งที่สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจะมีการใช้ความร้อนในการดัดโค้งตามรูปแบบที่ต้องการ มีราคาสูง และมีข้อจำกัดเรื่องขนาดและรัศมีความโค้ง

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งอาคาร ระเบียง ราวบันได ฉากกั้น เฟอร์นิเจอร์ หรืออุโมงค์เชื่อมทางเดิน

เนื้อหา Curved Glass.jpg

11. กระจกเงา (Mirror Glass) เป็นกระจกที่ใช้ในงานตกแต่งกันอย่างแพร่หลาย  ควรเลือกใช้ที่ขนาดความหนา 6 มม. ขึ้นไปเพื่อให้ภาพสะท้อนขนาดเท่าของจริง ไม่หลอกตา นิยมนำมาเจียรปลีที่ขอบเพื่อความหรูหราและความสวยงาม เพิ่มมิติให้กับผนัง

การใช้งาน เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งภายใน และกรุผนัง

เนื้อหา Mirror Glass.jpg

           จากประเภทและคุณสมบัติของกระจกที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้ว่ากระจกแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันไป ทั้งนี้ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

/           : @studio3c

Hope to see you soon !

We're here to share awesome news.

line_ icon.png
S__5406723.jpg
bottom of page